ดูหนัง 4k บางระจัน เนื้อเรื่อง เป็นอย่างไร?
ดูหนัง 4k เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ทัพของอังวะได้เข้าล้อมกรุงศรี ซึ่งอยู่ในช่วงกำลังจะเสียกรุงศรี ครั้งที่ 2 นั้นเอง จึงมีกลุ่มชาวบ้านที่ร่วมกัน ต่อต้านกองทัพอังวะอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้อังวะต้องเบนความสนใจ มายังที่หมู่บ้านแห่งนี้นั้นเอง ชาวบ้านระจันนั้นมีผู้นำชื่อ พ่อแท่น นำแสดงโดย (ชุมพร เทพพิทักษ์) ได้กำลังดักซุ่มทัพอังวะ ที่เดินทัพอยู่นั้นเอง
ทำให้เหล่าอังวะต้องแตกทัพหนี และในขณะที่ทัพที่เหลือของอังวะ ได้มาดูอาการแม่ทัพของเขา ที่ถูกยิงเข้าหน้าอกนั้นเอง แต่แล้วทัพอังวะที่เหลือ ก็ได้ถูกโจมตีโดยชาวบ้านอีกครั้ง คราวนี้พ่อแท่นได้ถูกกระสุนปืน เข้าที่ต้นขาของเขา ทำให้ได้รับบาดเจ็บจากการทำศึกในครั้งนี้ และมองเห็นแล้วว่าไม่สามารถ นำผู้คนในหมู่บ้านนี้ได้ จึงต้องการผู้นำคนใหม่ มานำทัพชาวบ้านเข้าต่อสู้กับอังวะ
นายอิน นำแสดงโดย (วินัย ไกรบุตร) นักธนูฝีมือดี และนายเมือง นำแสดงโดย (อรรถกร สุวรรณราช) ได้อาสาออกตามหา นายจันหนวดเขี้ยว ที่ได้รับฉายาว่าเป็นบุคคล ที่สามารถเอาชนะทหารอังวะด้วยตัวคนเดียว ถึง 10 คนเลยทีเดียว
หลังจากทั้งสองได้เข้าพบกับกลุ่มของ นายจันหนวดเขี้ยว นำแสดงโดย (จรัญ งามดี) ได้ชักชวนให้มาช่วยบ้านบางระจัน อีกทั่งยังได้พระเกจิอาจารย์อย่าง พระอาจารย์ธรรมโชติ นำแสดงโดย (ธีรยุทธ์ ปรัชญาบำรุง) ผู้มีวิชาอาคม รวมถึงเป็นศูนย์รวมใจของชาวบ้าน ได้เดินทางร่วมกับขณะนายจันหนวดเขี้ยว มายังหมุ่บ้านระจันแห่งนี้นั้นเอง นายจันหนวดเขี้ยวถูกยกให้ เป็นหัวหน้าของชุมชนแห่งนี้
จึงมีการเฝ้าระวังภัยมากขึ้น และสร้างรั้วแนวกำแพงให้ใหญ่ขึ้น ถึงแม้จะพบกับศึกภายนอก ก็ยังต้องพบกับศึกภายใน เมื่อนายอินกับพรรคพวก เชื่อคำพูดของนายทองเหม็น นำแสดงโดย (บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์) ที่ให้บุกค่ายอังวะมันดีกว่า
รอให้พวกมันเดินทางมาฆ่า จึงทำให้ใครหลายคนมั่นใจ ในศักยภาพของตัวเอง แต่ได้ถูกนายจันหนวดเขี้ยวขัดค้านเอาไว้ จึงทำให้เหล่านายอินไม่พอใจ แอบหนีเวรที่ต้องป้องกันหมู่บ้าน ทิ้งคนไว้เพียงคนเดียว ในการดักซุ่มดูทัพอังวะนั้นเอง ระหว่างที่นายอินกับพรรคพวกได้ลอบบุกโจมตีค่ายอังวะ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะด้วยจำนวนที่น้อยกว่า อีกทั่งด่านป้องกันของนายอิน ได้ถูกกองทัพอังวะแฝงตัวเข้ามาบุก
จึงทำให้ค่ายบางระจันถูกบุก โดยที่ไม่ได้ตั้งตัวนั้นเอง ทำให้หมู่บ้านต้องได้รับความเสียหาย และโกลาหลอย่างมาก ด้วยความผิดนี้เองนายอินได้ทำให้ ชาวบ้านตายกันเป็นจำนวนมาก นายจันหนวดเขี้ยวรู้สึกโกรธแค้น แต่ก็ไม่สามารถสังหารพวกเดียวกันได้
อีกทั้งนายอินนั้นเป็นคนมีฝีมือด้วยเช่นกัน นายจันหนวดเขี้ยว ได้ซ่อมแซมหมู่บ้านใหม่ รวมทั้งสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้าน ถึงแม้ชาวบ้านบางส่วน จะย้ายหนีออกกันไปจำนวนมากก็ตาม จึงทำให้กองกำลังของชาวบ้าน มีน้อยอย่างมาก จึงทำให้นายอินกับนายเมือง เป็นตัวแทนเข้าไปขอปืนใหญ่ จากกรุงศรีให้มาช่วยเหลือในขณะนั้นเอง แต่กลับถูกปฎิเสธมา ส่งมาเพียงช่างทำปืนนั้นเอง
ส่วนทางอังวะเองไม่อาจทนกับการต่อต้าน ของหมู่บ้านแห่งนี้ได้ ท่านเนเหมียวสีหบดี นำแสดงโดย (พิเศษ สังข์สุวรรณ) ได้นำทัพใหญ่มาสมทบ เข้าโจมตีหมู่บ้านบางระจันนั้นเอง ด้วยกำลังที่มากกว่าและปืนใหญ่ ที่มีประสิทธิภาพในการทำลาย
ต่างล้อมค่ายบางระจันแห่งนี้เอาไว้ ทั้งสองฝ่ายได้เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือด รวมทั้งปืนใหญ่ของทั้งสองฝ่ายยิงใส่กัน แต่ด้วยปืนใหญ่ของฝั่งบางระจัน เพิ่งหลอมเสร็จใหม่ๆ เหล็กยังไม่มีความแข็งมากเท่าไร จึงมีรอยราวจากปากกระบอกปืน ทำให้ปืนใหญ่นั้นแตก ขณะกำลังยิงใส่กองทัพอังวะนั้นเอง ด้วยไพล่พลที่น้อยกว่า จึงทำให้เหลือเพียงนายจันหนวดเขี้ยว ที่เดินเผชิญหน้ากับนายกองชาวมอธ
ที่ถูกแต่งตั้งโดย เนเหมียวสีหบดี นั้นก็คือ นายกองสุกี้ ที่คอยทำหน้าที่สั่งการนั้นเอง ถึงแม้นายจันหนวดเขี้ยวจะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็ไม่อาจสู้จำนวนที่มากกว่าได้ ทำให้การต่อสู้ครั้งสุดท้ายของชาวบ้าน ได้จบลงด้วยการต่อต้่านครั้งที่ 8 นั้นเอง
ดูหนัง 4k บางระจันกระแส เป็นอย่างไร?
หลังจากหนังได้เข้าฉายในปี 2000 แล้ว ทุกคนต่างรู้จักวีรกรรม ของชาวบ้านบางระจันแห่งนี้ และทำให้ผู้คนรู้สึกชาวบ้านกลุ่มนี้มากขึ้นด้วย สื่อต่างๆที่ออกมา ช่วยโปรโมทหนังในช่วงเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็นการ์ตูน หรือหนังสือที่เป็นประวัติจริงๆ ของหมู่บ้านแห่งนี้ออกขาย กันเป็นจำนวนมากนั้นเอง กระแสบางระจัน จึงได้สร้างอิทธิพลให้กับ ทุกคนได้รู้จักอีกมุมหนึ่งของชาวบ้าน
ที่รวมกันต่อสู้กับทหาร ที่มาจากต่างแดนนั้นเอง ทำให้เราได้เห็นถึงความสามัคคี ของคนรุ่นก่อนๆนั้นเอง ชื่อเสียงของหนังเรื่องนี้ ได้มีการสานต่อ ด้วยกันนำชื่อนี้ มาผลิตซ้ำในรูปแบบละครนั้นเอง อีกทั้งชื่อของบางระจัน ในช่วงเวลานั้นเอง สามารถขายได้อยู่ตลอดนั้นเอง นอกจากหนังได้ตราตรึง คนทุกๆคนที่ได้ดูในช่วงเวลานั้น ทำให้การท่องเที่ยวใน จังหวัดสิงห์บุรีนั้น กลับมาคึกคักอีกครั้ง
ด้วยจังหวัดแห่งนี้ เป็นที่ตั้งของค่ายบางระจันนั้นเอง ปัจจุบันนั้นค่ายแห่งนี้ ได้รับการสร้างขึ้นใหม่ รวมถึงอนุเสาวรีย์ของชาวบ้านบางระจัน ที่ถูกสร้างเพื่อเป็นเกียรติ แก่ชาวบ้านในขณะนั้นเอง อีกทั่งยังคงเหลือซาก
ของวัดที่พระอาจารย์ธรรมโชติ เคยจำวัดอยู่ที่นี้นั้นเอง ชื่อของพระอาจารย์นั้นนี้ ได้กลับมาเป็นที่รู้จักกัน ในวงการพระด้วยนั้นเอง เหตุด้วยท่านนั้นมีสมาธิที่แกร่งกล้า รวมทั้งมีคาถาวิเศษต่างๆ ที่ช่วยให้ชาวบ้านนั้นมีกำลังใจ
และคมดาบไม่สามารถ ทำอะไรกับผิวหนังของนักรบได้ด้วยนั้นเอง ทำให้วัตถุมงคล ที่มาจากหลวงพ่อท่านนี้ จึงมีราคารวมถึงกลายเป็น ของหายากอีกด้วย ด้วยหนังเรื่องนี้ได้เหมือน ปลุกจิตวิญญาณชาวบ้านบางระจัน ขึ้นมาในสังคมไทย ในช่วงเวลานั้นนั่นเอง
บางระจันมี อิทธิพลกับวงการหนัง แอ็คชั่นประวัติศาสตร์อย่างไร?
ด้วยความสำเร็จ ของปรากฎการบ้านบางระจัน ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นคือ ธนิตย์ จิตนุกูล เจ้าของผลงานมากมาย ที่ให้กับวงการภาพยนตร์ มาอย่างยาวนานนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ขุนแผน (2547) , คนเล่นของ (2547) , 102 ปิดกรุงเทพปล้น (2547) และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ บางระจัน ได้พาให้หนังเรื่องเรื่องได้รางวัล กำกับภาพยอดเยี่ยม รางวัลนาฎราช และเพิ่มความสำเร็จ ให้กับผู้กำกับท่านนี้อีกด้วย หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 10 ที่เขากำกับมาแล้วนั้นเอง ทางด้านรายได้เอง สามารถกวาดรายได้ไปกว่า 150.4 ล้านบาท
ด้วยทุนสร้างเพียงแค่ 30 ล้านบาท นับว่าในยุคนั้นรายได้ขนาดนี้ นับว่าเยอะอย่างมากเลยทีเดียว หลังจากนั้นได้มีหนังแนว สงครามประวัติศาสตร์ ออกมาด้วยกันหลายเรื่อง รวมถึงวงการละครเองก็ด้วย นับว่าเป็นการปลุกกระแส
ชาตินิยมกันในช่วงเวลานั้นเลยทีเดียว การเชิดชูถึงวีรบุรุษบุคคล ในประวัติศาสตร์ขที่มีเรื่องราวอยู่จริง นำกลับมาสร้างในรูปแบบใหม่ ที่ใช้ความเป็นรัฐชาตินำเสนอ จึงเกิดความรู้สึกถึงคนในอดีต ที่สู้รบเพื่อปกป้องอาณาจักร ของตัวเอง
ถึงแม้จะต้องตายก็ยอม ทำให้หนังประวัติศาสตร์ ในยุคต่อๆมาเริ่มมีการเล่าถึง บุคคลมากขึ้นนั้นเอง ผู้ชมในช่วงหนึ่งในวัยเด็ก หรือใครหลายคนอาจจะรู้สึกอิน ไปกับหนังแนวนี้ด้วยเช่นกัน จนถึงขั้นเรามีความรู้สึกไม่ดี กับประเทศเพื่อนบ้านเลยทีเดียว ซึ่งหนังประวัติศาสตร์ในช่วงเวลานั้น ได้ใส่บทบาท ของการถูกกระทำในอดีต และการเสียสละ ที่สร้างอารมณ์ได้อย่างดี กับผู้ชมที่ชื่นชอบใน หนังสงครามประวัติศาสตร์นั้นเอง
ไอเดียของหนังเรื่องนี้เป็นอย่างไร?
จุดเริ่มต้นของหนังเรื่องนี้ มาจากหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่มีอยู่จริงในช่วงที่กรุงศรีอยุธยากำลังจะแตก ครั้งที่ 2 ในช่วงเวลานั้นเองที่ทหารกรุง อังวะได้ปิดล้อมกรุงศรี และได้ถูกเหล่าชาวบ้าน คอยดักซุ่มโจมตีอยู่เป็นประจำ จนกลายเป็นตำนาน หมู่บ้านบางระจัน ที่โด่งดังเป็นที่รู้จักของทุกคนนั้นเอง โดยที่ตำนานวีรบุรษและสตรี ชาวบ้านที่ปกป้องพื้นที่ทำกิน
ของพวกเขาจากกองทหารอังวะ ที่เมื่อการทำสงคราม ใช้เวลานานและทรัพยากรจำนวนมาก จึงต้องมีการปล้นสะดม หรือยึดหมู่บ้านต่างๆโดยรอบ เพื่อยึดเสบียงมาเลี้ยงกองทัพนั้นเอง นับว่าจากจุดเริ่มต้นในหน้าประวัติศาสตร์ สู่แผ่นฟัล์มบนจอหนัง ที่สร้างความประทับใจ รวมถึงอารมณ์ร่วมในการรับชม ทำให้หนังเรื่องนี้ได้บอกเล่า อีกมุมหนึ่งของประวัติศาสตร์ ที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ไม่ใช่คนที่มีตำแหน่งกษัตริย์ หรือขุนนาง จึงทำให้เข้าถึงผู้คน โดยทั่วไปนั้นเอง
สรุปสิ่งที่ได้จากการดูเป็นอย่างไร?
หนังได้ให้ความบันเทิง และความทรงจำให้กับใครหลายคน ที่เคยดูในอดีตนั้นเอง หนังได้ทิ้งแมสเซสเอาไว้ ในเรื่องของความเป็นชาวบ้าน ที่ใช้ความกล้าเข้าต่อสู้ กับเหล่าผู้รุกรานนั้นเอง นอกจากนี้ยังเผยให้เห็นวัฒนธรรมในอดีต ไม่ว่าจะเป็นทางด้านความเชื่อ รวมถึงสรรพนามที่ใช้เรียกกัน ในแบบที่คนโบราณเขาพูดกัน และด้วยนักแสดงมีชื่อมากมาย ที่เข้ามามีส่วนให้หนังเรื่องนี้
ประสบความสำเร็จได้มาจนถึงทุกวันนี้นั้นเอง จึงทำให้มองว่า บางระจัน เป็นหนังสงครามอิงประวัติศาสตร์ ที่ให้ความรู้สึกในการรบที่ดุเดือด ในแบบฉบับอารยธรรมไทยโบราณ และเผยอีกแง่มุมของประวัติศาสตร์ไทย ที่น้อยนักที่จะรู้จัก เพราะเป็นเพียงประโยคหนึ่ง ในบันทึกทางประวัติศาสตร์นั้นเอง จึงได้สานต่อเป็นภาพยนตร์ ทำให้คนทั่วไปต่างรู้จักวีรกรรมของ ชาวบ้านบางระจันนั้นเอง